ที่มาของราชวงศ์จักรี


วันที่ 6 เมษายน2325 เป็นวันจักรี ท่องมาแบบนั้น
💆

จากบทเรียนทางประวัติศาสตร์เดิมๆที่จดจำมาคือ เป็นวันที่พระยาจักรี (ทองด้วง) ได้ปราบดาภิเษกขึ้นมาเป็นพระมหากษัตริย์มีพระนามว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งถือเป็นกษัตริย์องค์ที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี เป็นราชวงศ์ใหม่ และ ที่มานั้นเท่าที่จำได้คือ เนื่องจากพระเจ้าตากสินหลังจากปกครองบ้านเมืองไปสักพักก็มีความวิกลจริต ใช้อำนาจลงโทษทัณฑ์เหล่าเสนาฯอำมาตย์ ตามอำเภอใจ เลยถูกพระยาจักรีสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ แล้วปราบดาภิเษกตัวเองขึ้นเป็นกษัตริย์
📝

✂ืแต่ข้อมูลที่มาของก่อนที่นายทองด้วงจะมาเป็น พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และ เรื่องราว”ความวิปริต” ของพระเจ้าตากสินก่อนจะถูกสำเร็จโทษ จากหนังสือ “ประวัติศาสตร์อยุธยา:ห้าศตวรรษสู่โลก ใหม่”โดยคริส เบเกอร์และผาสุก พงษ์ไพจิตร (พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม 2563 )ได้ให้ข้อมูลที่มาที่ไปค่อนข้างกระจ่างพอสมควร
✂✂✂

ในหนังสือไมได้ระบุวันที่ของการปราบดาภิเษก ระเพียงว่าเดือนเมษายน พ.ศ. 2325 เจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง)ได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ โดยได้กล่าวถึง ที่มาที่ไปก่อนปราบดาภิเษกและรายละเอียดเรื่องความวิปริตของพระเจ้าตากที่ทำให้เกิดการรัฐประหารก็ชัดเจน และผู้ที่ทำรัฐประหารก็มิใช่เจ้าพระยาจักรี แต่กลับเป็นพระยาสรรที่เข้ายึดกรุงธนบุรีได้ในคืนเดียว (แต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้าพระยาจักรีเองไม่คิดจะทำรัฐประหาร)

ตอนนั้นพระเจ้าตากไม่ได้ขัดขืนใดๆต่อฝ่ายพระยาสรรเพียงกล่าว “สิ้นบุญพ่อแล้ว อย่าให้ยากแก่ไพร่เลย” ทรงขอชีวิตและออกผนวชที่วัดแจ้ง

28 วันหลังจากพระยาสรรทำการรัฐประหาร เจ้าพระยาจักรียกทัพกลับมา และตั้งศาลตัดสิน (แสดงว่าทรงไม่ได้สำเร็จโทษตามอำเภอใจนะ)ว่า “มุขมนตรีทั้งหลายพร้อมกันกราบทูลว่า พระเจ้าแผ่นดินละสุจริตเสียประพฤติ การทุจริตฉะนี้ ก็เห็นว่าเป็นเสี้ยนหนาม หลักตออันใหญ่ในแผ่นดินจะละไว้มิได่ ควรจะให้สำเร็จโทษเสีย” อีก 150 คนเป็นโทษประหารรวมทั้งพระยาสรรและพระบรมวงศานุวง์ฝ่ายชายในสมเด็จพระเจ้าตากสิน (บางพระองค์ก็รอดไปได้รวมทั้งพระราชโอรสที่เกิดแต่ธิดาเจ้าพระยาจักรี (พระเจ้าตากสินรับพระธิดาเจ้าพระยาจักรีเป็นมเหสี )

👉มาย้อนดูว่าพระเจ้าตากสิน ทำอะไรถึงเป็นเหตุให้เรียกว่าเป็นความวิปริต ที่ทำเอาเหล่าขุนนางรับไม่ได้จนต้องหาทางกำจัด

เริ่มตั้งแต่ที่พระเจ้าตากสินเริ่มเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กับพระสงฆ์ พระองค์ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก แต่ไปไกลเกินบทบาทเชิงจารีต แต่ถือสิทธิ์เป็นดั่งอาจารย์และผู้นำในทางปฏิบัติของคณะสงฆ์ …. หลังจากมีชัยชนะเหนือพระเจ้าฝาง ในปี 2313 ทรงชำระล้างเพื่อให้คณะสงฆ์บริสุทธิ์ขึ้น ในท้องถิ่น ทรงบังคับให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วยวิธีการดำน้ำ และมีโทษประหารหากล้มเหลว ทรงทำเช่นนี้กับพระสงฆ์ในธนบุรีด้วย ….

มีการเข้าไปคุกคามการสอนพุทธศาสนา ..เข้าไปตีความพระวินัยเสียเอง ตราพระราชกำหนดลงโทษและควบคุมพระสงฆ์ เชื่อว่าพระองค์ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอีกต่อไป พระองค์พบว่ามีพระสรีรังคารลักษณะเดียวกับพระพุทธเจ้าและเชื่อว่าและเชื่อว่าพระโลหิตเปลี่ยนเป็นสีขาวดังของเทพเจ้า……บังคับพระสงฆ์เคารพพระองค์ดั่งอาจารย์ รับสั่งโบยพระสงฆ์ที่ไม่เชื่อฟัง ถอดสมนศักดิ์ และบังคับให้ทำงานโยธา …

👉ตัดภาพมาที่ ทองด้วง คือใคร

ทองด้วง เป็นพี่ชายของนายบุญมา
นายบุญมาเป็นผู้เดียวที่มาจากตระกูลขุนนางอยุธยาเดิมที่ได้ร่วมขบวนกับสมเด็จพระเจ้าตากสินที่จันทบุรี หลังจากนั้นก็เป็นแม่ทัพที่เก่งกาจและมากประสบการณ์ที่สุดของพระองค์ นำทัพไปตี ล้านนา ลาวและเขมร หลังจากพระเจ้าตากสินตั้งมั่นที่กรุงธนบุรีแล้ว นายบุญมาได้นำนายทองด้วงพี่ชายให้เข้ามาร่วมด้วย

นายทองด้วงไม่ได้มีตำแหน่งที่อยุธยา แต่ที่ราชบุรีได้แต่งานกับบุตรสาวของตระกูลดัง เมื่อเข้ามาร่วม นายทองด้วงก็ประสบความสำเร็จไเ้เป็นแม่ทัพเช่นกันและได้ตำแหน่งเจ้าพระยาจักรีในราว ปี 2320

ทองด้วงในตำแหน่งเจ้าพระยาจักรีเริ่มมีบทบาทนำในกลุ่มผู้ดีเก่าในบรรดาขุนนางซึ่งไม่สบายใจกับวิถี “วิปริต”ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมากขึ้น

ณ.จุดนี้สมเด็จพระเจ้าตากเหมือนเดินเกมพลาด แทนที่จะหยุดยั้งอิทธิพลของทองด้วงที่มากขึ้น กลับทรงรับธิดาของเขาเป็นมเหสี แต่ก็ลงโทษโบยนายทองด้วงด้วยเมื่อแพ้สงครามเช่นเดียวกับขุนนางอื่นๆและภรรยาของเขาด้วยหากเป็นโทษ( -ไม่คิดว่านี่เป็นพ่อตาแม่ยายนะ หึหึ )

ภายหลังจากที่คณะสงฆ์แตกแยกในช่วงปร ะมาณพ.ศ.2322-2323 กลุ่มของเจ้าพระยาจักรีแน่ใจว่าต้องสกัดสมเด็จพระเจ้าตากสินและวางแผนรัฐประหาร ….แต่ก็ต้องไปศึก ปี 2324 เจ้าพระยาจักรีและบุญมา นำทัพไปตีเขมร ในระหว่างเดินทางกลับ หลานชายเจ้าพระยาจักรีก็เดินทางเข้าโคราชอย่างเงียบเชียบเพื่อก่อการรัฐประหาร แต่ไม่ทันเพราะพระยาสรรจัดการก่อการรัฐประหารไปก่อนแล้วดังกล่าว

🎆เมษายน 2325 ทองด้วง (เจ้าพระยาจักรี)ปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่พระนามว่สบา “พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก” ย้ายเมืองหลวงไปฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่กรุงเทพฯ ทรงแทรกคำว่า “อยุธยา” ในพระนามเมืองกลวงใหม่ ทรงเติม “รามาธิบดี” ในพระนามของกษัตริย์ผู้ก่อตั้งอยุธยาเป็นคำขึ้นต้นพระอิสริยยศของพระองค์เอง ทรงเข้าพิธีราชาภิเษกอีกครั้งหลังจากที่มั่นใจว่าพระราชพิธีเป็นไปตามแบบแผนของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ

และนี่คือที่มาของต้นราชวงศ์จักรี #วันจักรี
👑👑👑
ปล. 1 : ในหนังสือเล่มนี้ระบุว่า ชนชั้นนำเดิม(จากอยุธยา) จำนวนมากถูกกวาดต้อนไปพม่า ชนชั้นนำกลุ่มใหม่มาทดแทนซึ่งพวยพุ่งขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้ เมื่อกรุงเทพฯเป็นเมืองหลวง ครอบครองดินแดนที่ยิ่งใหญ่กว่าที่อยุธยาเคยมี การค้ากลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง กรุงเทพฯโยงใยใกล้ชิดกับจีนมากกว่าอยุธยา

ปล.2 ยังคงยืนยันว่า แนะนำให้ทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้กันเพื่อได้รับข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่รอบด้านขึ้น (มีคนบอกว่าประวัติศาสตร์ขึ้นอยู่กับใครเขียน แต่เล่มนี้มี reference ค่อนข้างรอบด้านและไม่ bias จึงมีเนื้อหาที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง //

About smksutthida

A freelance consultant and story teller , enjoy travelling and learning from every part of the globe
This entry was posted in book review, Uncategorized and tagged , , , , , , , , . Bookmark the permalink.

Leave a comment